• ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของลูกค้าได้ เช่น เลขประจำตัวผู้เสียภาษี, IP Address หรือเลขที่ทางอิเล็กทรอนิกส์ของลูกค้าที่สามารถระบุตัวตนได้ รวมถึงข้อมูลบันทึกต่าง ๆ ที่ใช้ติดตามตรวจสอบกิจกรรมต่าง ๆ ของบุคคล เช่น log file, cookies เป็นต้น
• ข้อมูลอื่น ๆ ที่ลูกค้าได้มอบให้กับบริษัทระหว่างการติดต่อกับบริษัท หรือตามที่บริษัทร้องขอให้ลูกค้าจัดส่ง
(2) เพื่อบริษัทจะได้นำเสนอ แนะนำหรือให้บริการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท ได้แก่
• ข้อมูลเกี่ยวกับคดีความต่าง ๆ (ถ้ามี) ในขั้นตอนหรือกระบวนการตามลำดับ, ข้อมูลที่ลูกค้าต้องเปิดเผยตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน, กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์, หรือกฎหมายอื่น ๆ ที่บริษัทต้องอยู่ภายใต้บังคับ
• ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเชื้อชาติ ชาติพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลด้านสุขภาพ ความทุพพลภาพ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลทางพันธุกรรม ข้อมูลไบโอเมตริกซ์หรือข้อมูลใด ๆ ที่อาจส่งผลต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้เปิดเผยและ/หรือโอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนไปยังต่างประเทศก็ต่อเมื่อได้รับควมมยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ ได้แก่ ข้อมูลชีวมาตร (เช่น ระบบจดจำใบหน้า ลายนิ้วมือ ข้อมูลสุขภาพ (เช่น ข้อมูลการรักษาพยาบาล) ประวัติอาชญากรรม ศาสนา และข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอื่น ๆ ซึ่งแสดงอยู่ในเอกสารประจำตัว (เช่น เชื้อชาติ และศาสนา)
(3) ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บหรือสร้างขึ้นเกี่ยวกับลูกค้า หรือที่บริษัทได้รับจากบุคคลอื่น ได้แก่ ข้อมูลต่อไปนี้
• ไฟล์ข้อมูลที่บริษัทอาจสร้างเป็นข้อมูลของความสัมพันธ์ที่บริษัทมีกับลูกค้า รวมถึงประวัติการติดต่อ ประวัติและข้อมูลการสื่อสารในทุกช่องทาง
• ข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่ลูกค้าได้ติดต่อสื่อสารหรือที่บริษัทได้บันทึกระหว่างการติดต่อสื่อสารทางโทรศัพท์, การสื่อสารทางอีเมล ไม่ว่าจะได้กระทำบนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน ภาพที่เก็บรวบรวมผ่านทางกล้องวงจรปิด (CCTV) กรณีที่ลูกค้าติดต่อสำนักงานของบริษัท ซึ่งบริษัทได้ทำการติดตามและบันทึกไว้เป็นข้อมูลเพื่อนำแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียน พัฒนาการบริการและช่วยในการตรวจสอบคุณภาพ เพื่อการอบรม เพื่อความปลอดภัย เพื่อเป็นไปตามกฎหมาย และกฎระเบียบที่บริษัทต้องปฏิบัติ
• ข้อมูลการทำรายการซื้อ ขาย การรับเงิน จ่ายเงิน และรายการเกี่ยวกับภาษี (ถ้ามี)
• ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับมาจากหน่วยงานต่าง ๆ ตามมาตรการคว่ำบาตรเป็นรายประเทศ หรือตามมติเกี่ยวกับการไม่แพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (Weapons of Mass Destruction: WMD) หรืออาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธต่าง ๆ ภายในกรอบสหประชาชาติ (UN), หรือข้อมูลรายชื่อที่ได้รับจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ, สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์, คณะกรรมการกำกับตลาดทุน, ธนาคารแห่งประเทศไทย, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ, กระทรวงยุติธรรม, กรมบังคับคดี, กรมการปกครอง, หน่วยงานราชการต่างๆ
(4) ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สาม
• หากลูกค้าให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามแก่บริษัท เช่น ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด หมายเลขโทรศัพท์ เลขประจำตัวประชาชน เลขที่หนังสือเดินทาง ของ คู่สมรส บุตร หรือบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้อง สำหรับการติดต่อฉุกเฉินและรับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย ลูกค้าได้แจ้งนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้แก่บุคคลที่สามดังกล่าวทราบ และได้รับความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวแล้วหากจำเป็น เว้นแต่เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อบริษัทได้ตามกฎหมาย
3. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอก
บริษัทอาจทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่บุคคลภายนอกเท่าที่จำเป็นเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์หลักหรือวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทอาจส่งข้อมูลของลูกค้าไปยังบุคคล ดังต่อไปนี้
(1) ผู้แทน ตัวแทน ผู้เก็บรักษาทรัพย์สิน ตัวกลาง และ/หรือผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์อื่นซึ่งลูกค้าหรือบริษัทเป็นผู้แต่งตั้ง
(2) ตัวแทน และผู้รับจ้าง หรือผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ทั้งนี้ เพื่อให้บุคคล และ/หรือนิติบุคคลเหล่านี้ให้บริการแก่บริษัท
(3) คู่ค้า นายหน้าซื้อขายตราสารหนี้ ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ ผู้จัดจำหน่ายตราสารหนี้ ธนาคาร สถาบันการเงิน บริษัทประกันภัย บริษัทหลักทรัพย์ นิติบุคคล และ/หรือบุคคลอื่นๆ ซึ่งมีความจำเป็นอย่างสมเหตุผลที่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่จะทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ของลูกค้าที่ต้องการใช้บริการของบริษัท
(4) หน่วยงานกำกับ หน่วยงานของรัฐบาล หรือหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย กรมสรรพากร บุคคลและนิติบุคคลใด ๆ ก็ตามที่บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูลเท่าที่กฎหมายหรือ กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกำหนด หรือในกรณีเฉพาะอื่น ๆ เช่น เป็นไปตามคำสั่งศาล หรือสำนักงานป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน เป็นต้น
(5) เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามสัญญาหรือตามกฎหมายของบริษัท หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
(6) หน่วยงานหรือองค์กรในต่างประเทศ เพื่อเปิดเผยข้อมูลของลูกค้า ตามที่ได้รับการร้องขอ ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมาย และหน่วยงานหรือองค์กรดังกล่าวได้รับการยอมรับจากหน่วยงานกำกับของประเทศไทย
4. ภายใต้การได้รับความยินยอมจากลูกค้า บริษัทอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในการประมวลผลโดยระบบอัตโนมัติ ซึ่งจะมีผลต่อข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หรือเพื่อการรวบรวมข้อมูลอื่นๆ เช่น การรวบรวมข้อมูลเพื่อการตลาด เป็นต้น
5. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
6. ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นในระหว่างที่ลูกค้าเป็นลูกค้าหรือมีความสัมพันธ์อยู่กับบริษัท หรือตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ ซึ่งอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นหากมีกฎหมายกำหนดหรืออนุญาตไว้ เช่น จัดเก็บไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน จัดเก็บไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตรวจสอบกรณีอาจเกิดข้อพิพาทภายในอายุความตามที่กฎหมายกำหนดเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี
ทั้งนี้ บริษัทจะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของลูกค้าได้เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว
7. มาตรการการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบเอกสาร (Hard Copy) รวมถึงด้านอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic File) และมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เป็นไปตามนโยบายการรักษาความปลอดภัยทางเทคโนโลยีสารสนเทศที่บริษัทกำหนดไว้เป็นลายลักษณ์อักษร
8. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
กรณีมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อันอาจเนื่องจากข้อกำหนดของบริษัท หรือที่จะมีปรับแก้ตามข้อกำหนดของทางการที่อาจเกิดขึ้น บริษัทขอสงวนสิทธิที่จะไม่แจ้ง/บอกกล่าวให้ลูกค้าทราบล่วงหน้าทั้งนี้ บริษัทจะแสดงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับที่เป็นปัจจุบันไว้บนเว็บไซต์ของบริษัท
9. ในกรณีที่ลูกค้าประสงค์จะใช้สิทธิข้อหนึ่งข้อใดตามที่ระบุไว้ในข้อ 5. หรือให้ความยินยอมหรือถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทลูกค้าสามารถติดต่อได้ที่ :
บริษัทหลักทรัพย์ เคพีเอ็ม จำกัด
944 อาคารมิตรทาวน์ ออฟฟิศ ทาวเวอร์ ชั้น 7 ยูนิต 707 – 708
ถนนพระราม 4 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน
กรุงเทพมหานคร 10330 โทรศัพท์ : 02-033-1010
E-mail : Privacy.po@kpmsec.co.th Website : www.kpmsec.co.th